เมื่อวันที่1เม.ย. สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL)เสนอผลสำรวจ เรื่อง“โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่2 (ฉบับเต็ม) กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ18ปีขึ้นไป จำนวน53,094,778คน จำนวน1,257ตัวอย่าง ระหว่างวันที่26 – 31มีนาคม พ.ศ.2566โดยเมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจจุดยืนทางการเมืองของประชาชนระหว่าง โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่1และ ครั้งที่2พบว่า กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ34.1เป็นร้อยละ39.1
สลากดิจิทัล แตก 114 ล้านบาทพบคนเดียวถูก 10 ใบนับ 60 ล้าน
“พรรคการเมือง”ขอบคุณวงดีเบตพีพีทีวี เปิดโอกาสถกเนื้อหานโยบายที่เป็นประโยชน์
ในขณะที่กลุ่มผู้ไม่สนับสนุนรัฐบาลลดลงจากร้อยละ29.6เป็นร้อยละ24.5และกลุ่มพลังเงียบยังคงเป็นตัวแปรสำคัญไม่เปลี่ยนแปลงคือร้อยละ36.3ในการสำรวจครั้งที่1และร้อยละ36.4ในการสำรวจครั้งที่2คำพูดจาก สล็อต777 เว็บตรง
ที่น่าสนใจคือ ความตั้งใจจะเลือกพรรคการเมือง แบ่งออกระหว่างกลุ่มแฟนคลับพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล กับ กลุ่มแฟนคลับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เปรียบเทียบครั้งที่1และ ครั้งที่2พบว่า ในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลรวมกันเพิ่มขึ้นจากร้อยละ51.6ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ55.7ในครั้งที่2โดยพบว่าเป็นการเทคะแนนมาจากกลุ่มพลังเงียบ ในขณะที่ พรรคร่วมฝ่ายค้านตอนนี้รวมกันลดลงจากร้อยละ43.3ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ36.3ในการสำรวจครั้งที่2โดยในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล อันดับหนึ่งได้แก่ พรรคภูมิใจไทยเพิ่มจากร้อยละ19.1ในครั้งที่1มาเป็น ร้อยละ20.5ในครั้งที่2รองลงมาคือ พรรคประชาธิปัตย์เพิ่มจากร้อยละ13.4ในครั้งที่1มาเป็นร้อยละ14.2ในครั้งที่2อันดับสามได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ10.1ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ10.9ในครั้งที่2อันดับที่สี่ ได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มขึ้นจากร้อยละ7.3ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ9.3ในครั้งที่2เป็นต้น
ในขณะที่ ความตั้งใจของประชาชนจะเลือก ส.ส. ในกลุ่มพรรคร่วมฝ่ายค้าน พบว่า อันดับแรก พรรคเพื่อไทยแต่ลดลงจากร้อยละ36.9ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ29.1ในการสำรวจครั้งที่2รองลงมาคือ พรรคก้าวไกล ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ5.9ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ6.7ในครั้งที่2ส่วนพรรคเสรีรวมไทยยังคงเท่าเดิมคือ ร้อยละ0.5ในการสำรวจทั้งสองครั้ง
นอกจากนี้ ที่น่าสนใจคือ คนที่ประชาชนอยากได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในกลุ่มแฟนคลับของพรรคร่วมรัฐบาล อันดับแรกยังคงเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่มขึ้นจากร้อยละ19.0ในการสำรวจครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ20.4ในครั้งที่2อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีคะแนนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ12.3ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ16.3ในการสำรวจครั้งที่2ในขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคะแนนเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากร้อยละ12.2ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ12.9ในครั้งที่2และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ3.1มาอยู่ที่ร้อยละ3.5ในการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจส่วนของฝั่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน พบว่า อันดับแรกยังคงเป็น นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แต่สัดส่วนลดลงจากร้อยละ39.7ในการสำรวจครั้งแรก มาอยู่ที่ร้อยละ32.1ในครั้งที่2ในขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กลับมีคะแนนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ8.7ในครั้งที่1มาอยู่ที่ร้อยละ9.3ในครั้งที่2ตามลำดับ
รายงานผลสำรวจของซูเปอร์โพล ระบุว่า กลุ่มพลังเงียบยังคงเป็นตัวแปรสำคัญเพราะจะเปลี่ยนไปมาได้โดยง่าย กลุ่มพลังเงียบน่าจะเป็นกลุ่มชี้เป็นชี้ตายชัยชนะผลการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงนี้ เพราะหากไปสนับสนุนฝั่งใดฝั่งนั้นน่าจะเป็นฝ่ายที่จะถึงเป้าหมายของการเป็นรัฐบาลและตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยผลการศึกษาของซูเปอร์โพลยังพบด้วยว่าปัจจัยสำคัญทางการเมือง คือ ประชาชนหันมาสนใจติดตามข่าวการเมืองเพิ่มขึ้นรับรู้ผลงานของรัฐบาลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแต่ละคนมากขึ้นเป็นข้อได้เปรียบของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ในขณะที่ข้อเสียเปรียบของพรรคร่วมฝ่ายค้านคือ ฐานเดิมไม่ได้ขยายเพิ่ม กลุ่มสวิงที่เปลี่ยนใจง่ายยังไม่เห็นผลงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านและบางส่วนมองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง